วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553
วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553
ใครคิดว่าต่อไปนี้โลกนี้จะไม่มีคนตายมั่งล่ะ แล้วมีใครคิดว่าต่อไปนี้จะไม่มีการประกอบพิธีศพ หรือมีรัฐบาลชุดไหนจะยกเลิกการทำพิธีศพที่ทำมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ ไม่น่าจะมีนะ
เพราะฉะนั้น ดอกไม้จันทน์ของเราจะเบ่งบานตลอดกาล เมื่อมีงานศพที่ไหน มีดอกไม้จันทน์ที่นั่น
เมื่อนั้นรายได้ก็จะเกิด อยากทำเป็นธุรกิจของตัวเองนะเนี่ย ออกจากงานเมื่อไหร่ ว่าจะลองทำดู
วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553
ดอกไม้จันทน์
วัสดุอุปกรณ์หลัก ๆ ประกอบด้วย กลีบดอกสีขาว, กลีบดอกสีเกสร,หนวดจันทน์ (ทำจากเยื่อไม้), กระดาษย่นสีดำ, ริบบิ้นสีดำ, ธูป-เทียน,ธูประกำ (1ดอก ทำได้ 4 ช่อ), เทียนจิ๋ว, เทียนเบอร์ 8,
ช่อประธานพร้อมหนวด, ก้านไม้ติดช่อประธาน, ไม้เสียบหมูปิ้งขนาด 5-6 นิ้ว(หรืออาจใช้ก้านธูปเพื่อประหยัดต้นทุน), ด้ายสีขาว(แบบที่เรียกว่าด้ายไพ่ป๊อก), ลวดเบอร์ 24,ถุงพลาสติกสำหรับบรรจุดอกไม้จันทน์ (ขนาด 16x26 นิ้ว บรรจุดอกเล็กได้ 100ดอก ขนาด 10x15 นิ้ว บรรจุช่อประธานได้ 1 ถุงต่อ 1 ช่อ), กาวลาเท็กซ์
ขั้นตอนการทำ แบบดอกธรรมดา เริ่มจากการทำเกสรก่อนโดยใช้กลีบดอกเกสรทำการจับกลีบเข้ากับก้านดอกนำกลีบดอกที่เตรียมไว้แล้วมาทำการเข้าดอก โดยใช้กลีบดอกประมาณ 4 กลีบจากนั้นทากาวแล้วใช้ด้ายมัดให้แน่น ก็จะได้ตัวดอกไม้จันทน์เมื่อได้ตัวดอกไม้จันทน์แล้วก็มาถึงขั้นตอนการใส่หนวดจันทน์ซึ่งทำเตรียมไว้โดยพันคู่กับธูป-เทียนสำเร็จไว้เรียบร้อยแล้วเมื่อใส่หนวดจันทน์แล้วนำกระดาษย่นสีดำพันก้านดอกให้แน่นจนไม่สามารถมองเห็นก้านดอกได้ ก็เป็นอันเสร็จ
ส่วนการทำดอกไม้จันทน์แบบช่อประธานเริ่มจากเตรียมก้านไม้ช่อประธานพร้อมหนวดจันทน์ไว้จากนั้นจึงนำดอกที่ทำไว้ซึ่งใช้ขั้นตอนเดียวกันกับการทำแบบดอกธรรมดานำมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นช่อโดยจะต้องทำแบบนี้เพราะจะต้องนำมาติดช่อประมาณช่อละ 9 ดอกจากนั้นทำการตกแต่ง เป็นอันเสร็จขั้นตอน
สำหรับการเก็บรักษาดอกไม้จันทน์เพื่อรอจำหน่ายคุณนิตาเจ้าของงานแนะเคล็ดลับว่าเมื่อทำเสร็จแล้วควรนำใส่ถุงพลาสติกแพ็กเก็บไว้เพื่อไม่ให้กลีบดอกโดนลมจนกลีบดอกกรอบหรือหัก
“ควรบรรจุเป็นถุง ๆ ไว้เพื่อสะดวกในการเก็บรักษาและขาย”