ดอกไม้จันทน์

ช่องทางทำกินวันนี้มาดูอาชีพผลิตและจำหน่ายดอกไม้จันทน์ที่ใช้ในงานเศร้าซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาชีพทำกินที่ยังทำเงินได้ตลอดถ้ารู้จักหาตลาดไม่ว่าจะทำเป็นอาชีพหลัก หรือเลือกทำเป็นอาชีพเสริม...

ดอกไม้ จันทน์แม้จะเป็นดอกไม้สำหรับคนตายแต่ดอกไม้จันทน์จะไม่มีวันตาย เพราะสามารถขายได้ตลอดที่สำคัญยังเป็นสินค้าที่ไม่มีวันเสีย ไม่บูด ไม่เน่าสามารถเก็บรักษาเพื่อรอจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี

สำหรับการทำดอกไม้จันทน์ ชนิดที่นิยมในตลาดทั่วไปมีอยู่ 2 แบบคือแบบช่อประธาน สำหรับบุคคลสำคัญ และแบบธรรมดาดอกเดียว สำหรับบุคคลทั่วไปโดยราคาขายหากเป็นแบบช่อประธาน ราคาช่อละ 20 บาท ส่วนแบบธรรมดาราคาดอกละ 1บาท (เวลาขายจะขายเป็นแพ็ก ละ 100 ดอก)ขณะที่ราคารับซื้อจากผู้ประดิษฐ์ไปขายต่อ จะอยู่ที่ 12 ช่อ 100 บาทสำหรับแบบช่อประธาน ส่วนดอกธรรมดา ดอกละ 70 สตางค์
ดอกไม้จันทน์ที่ทำขายมีการพัฒนารูปแบบโดยเพิ่มสีสันเข้าไปในส่วนที่เป็นเกสรดอกจากเดิมที่ส่วนใหญ่จะมีแต่สีขาวหรือสีเหลืองนวลล้วน ๆเพื่อให้โดดเด่นและน่าสนใจมากขึ้น
ทุนเบื้องต้นในการทำ มีประมาณ 600 บาท ก็ทำได้แล้วส่วนใหญ่เป็นค่าวัสดุอุปกรณ์ชุดแรก โดยเงินทุนจำนวนนี้จะทำแบบดอกเดียวได้ประมาณ 800 ดอกซึ่งการทำดอกไม้จันทน์ในครั้งแรกอาจยังไม่เห็นผลกำไรมากนักแต่กำไรจะอยู่ที่วัสดุอุปกรณ์ที่เหลือ ซึ่งสามารถใช้สำหรับการทำครั้งต่อไปทำให้ต้นทุนลดลงจนเหลือผลกำไรมากขึ้นโดยในจำนวนดอกใกล้เคียงกับที่ว่ามาจะทุนหมุนเวียนครั้งละประมาณ 200-300 บาท

วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553

ของมันอยู่คู่กัน โลงศพ กับ ดอกไม้จันทน์ สุริยา หีบศพ เขายังขายโลงได้ เราก็น่าจะขายดอกไม้จันทน์ได้ โดยมีช่องทางการจัดจำหน่าย โดยขายส่งให้กับคนขายโลงนี่แหละ ดอกนี้วางขายในเซเว่นได้ซะที่ไหน ไม่ใช่กุหลาบวันวาเลนไทน์

วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553







จริง ๆ แล้ว ดอกไม้จันทน์ เป็นสิ่งจำเป็นนะ ลองคิดดูสิ ในประเทศไทยเรา ถ้ามีงานศพที่ไหน แล้วไม่มีดอกไม้จันทน์ จะเผาได้หรือเปล่า ไม่ได้หรอก เพราะดอกไม้จันทน์เป็นสิ่งจำเป็นในงานศพ จะไปหอบเอาฟางข้าวมาเผาเหรอ น่าเกลียดตายเลย ถึงได้บอกว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี ก็ขายได้ นอกเสียจากโลกนี้จะไม่มีคนตาย นั่นแหละ ดอกไม้จันทน์จะตกงาน
ใครคิดว่าต่อไปนี้โลกนี้จะไม่มีคนตายมั่งล่ะ แล้วมีใครคิดว่าต่อไปนี้จะไม่มีการประกอบพิธีศพ หรือมีรัฐบาลชุดไหนจะยกเลิกการทำพิธีศพที่ทำมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ ไม่น่าจะมีนะ

เพราะฉะนั้น ดอกไม้จันทน์ของเราจะเบ่งบานตลอดกาล เมื่อมีงานศพที่ไหน มีดอกไม้จันทน์ที่นั่น
เมื่อนั้นรายได้ก็จะเกิด อยากทำเป็นธุรกิจของตัวเองนะเนี่ย ออกจากงานเมื่อไหร่ ว่าจะลองทำดู

วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

ดอกไม้จันทน์


วัสดุอุปกรณ์หลัก ๆ ประกอบด้วย กลีบดอกสีขาว, กลีบดอกสีเกสร,หนวดจันทน์ (ทำจากเยื่อไม้), กระดาษย่นสีดำ, ริบบิ้นสีดำ, ธูป-เทียน,ธูประกำ (1ดอก ทำได้ 4 ช่อ), เทียนจิ๋ว, เทียนเบอร์ 8,
ช่อประธานพร้อมหนวด
, ก้านไม้ติดช่อประธาน, ไม้เสียบหมูปิ้งขนาด 5-6 นิ้ว(หรืออาจใช้ก้านธูปเพื่อประหยัดต้นทุน), ด้ายสีขาว(แบบที่เรียกว่าด้ายไพ่ป๊อก), ลวดเบอร์ 24,ถุงพลาสติกสำหรับบรรจุดอกไม้จันทน์ (ขนาด 16x26 นิ้ว บรรจุดอกเล็กได้ 100ดอก ขนาด 10x15 นิ้ว บรรจุช่อประธานได้ 1 ถุงต่อ 1 ช่อ), กาวลาเท็กซ์

ขั้นตอนการทำ แบบดอกธรรมดา เริ่มจากการทำเกสรก่อนโดยใช้กลีบดอกเกสรทำการจับกลีบเข้ากับก้านดอกนำกลีบดอกที่เตรียมไว้แล้วมาทำการเข้าดอก โดยใช้กลีบดอกประมาณ 4 กลีบจากนั้นทากาวแล้วใช้ด้ายมัดให้แน่น ก็จะได้ตัวดอกไม้จันทน์เมื่อได้ตัวดอกไม้จันทน์แล้วก็มาถึงขั้นตอนการใส่หนวดจันทน์ซึ่งทำเตรียมไว้โดยพันคู่กับธูป-เทียนสำเร็จไว้เรียบร้อยแล้วเมื่อใส่หนวดจันทน์แล้วนำกระดาษย่นสีดำพันก้านดอกให้แน่นจนไม่สามารถมองเห็นก้านดอกได้ ก็เป็นอันเสร็จ
ส่วนการทำดอกไม้จันทน์แบบช่อประธานเริ่มจากเตรียมก้านไม้ช่อประธานพร้อมหนวดจันทน์ไว้จากนั้นจึงนำดอกที่ทำไว้ซึ่งใช้ขั้นตอนเดียวกันกับการทำแบบดอกธรรมดานำมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นช่อโดยจะต้องทำแบบนี้เพราะจะต้องนำมาติดช่อประมาณช่อละ 9 ดอกจากนั้นทำการตกแต่ง เป็นอันเสร็จขั้นตอน
สำหรับการเก็บรักษาดอกไม้จันทน์เพื่อรอจำหน่ายคุณนิตาเจ้าของงานแนะเคล็ดลับว่าเมื่อทำเสร็จแล้วควรนำใส่ถุงพลาสติกแพ็กเก็บไว้เพื่อไม่ให้กลีบดอกโดนลมจนกลีบดอกกรอบหรือหัก

ควรบรรจุเป็นถุง ๆ ไว้เพื่อสะดวกในการเก็บรักษาและขาย